ดีป้า ร่วมกับ บีโอไอ ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการไทย ผ่านกลไกบัญชีบริการดิจิทัล สูงสุด 100 ล้านบาท
วันที่8 ธันวาคม 2568, กรุงเทพมหานคร – ดีป้า ร่วมกับ บีโอไอ ขับเคลื่อนมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการ
ไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ระบุผู้ประกอบการองมีการลงทุนและ/หรือค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสินค้า หรือบริการบนบัญชีบริการดิจิทัลจาก ดีป้า เพื่อรับการสนับสนุน 30% ของมูลค่าการลงทุน สูงสุด 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ผู้อํานวยการใหญ่สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามที่ สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ออกประกาศสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเรื่อง การขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสําหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายนั้น ดีป้า ร่วมยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการแปรรูป อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อุตสหากรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของกิจการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยผู้ประกอบการไทยต้องนําเทคโนโลยีดิจิทัลที่ถูกพัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสินค้าหรือบริการบนบัญชีบริการดิจิทัลจาก ดีป้า มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกิจการในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณี ดังนี้
1. การนําซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือระบบสารสนเทศ มาใช้ในการเชื่อมโยมภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ (Integrated) โดยเชื่อมโยงภายนอกองค์กร (Connected) ด้วยก็ได้ โดยต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างน้อย 3 ฟังก์ชัน มาใช้บริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือการให้บริการ
2. การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) Machine Learning การนํา Big Data มาใช้ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
“กรณีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยต้องมีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ส่วนกรณีอื่นต้องมีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียน ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนต้องมีการลงทุนและ/หรือค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการไทยที่ขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล โดย ดีป้า จะสนับสนุน 30% ของมูลค่าการลงทุน สูงสุด 100 ล้านบาทต่อนิติบุคคล ตามสัดส่วนเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และเป็นโครงการที่ต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี” ผู้อํานวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
สําหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอรับการสนับสนุนสามารถค้นหา/คัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลของ ดีป้า ได้ทาง https://short.depa.or.th/1LOik และศึกษารายละเอียดของมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ที่ https://short.depa.or.th/yAPQ6
ไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ระบุผู้ประกอบการองมีการลงทุนและ/หรือค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสินค้า หรือบริการบนบัญชีบริการดิจิทัลจาก ดีป้า เพื่อรับการสนับสนุน 30% ของมูลค่าการลงทุน สูงสุด 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ผู้อํานวยการใหญ่สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามที่ สํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ออกประกาศสํานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเรื่อง การขอรับการส่งเสริมภายใต้มาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสําหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายนั้น ดีป้า ร่วมยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการแปรรูป อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อุตสหากรรมการแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ และอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพของกิจการด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยผู้ประกอบการไทยต้องนําเทคโนโลยีดิจิทัลที่ถูกพัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการรับรองหรือขึ้นทะเบียนสินค้าหรือบริการบนบัญชีบริการดิจิทัลจาก ดีป้า มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกิจการในกรณีใดกรณีหนึ่งหรือหลายกรณี ดังนี้
1. การนําซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือระบบสารสนเทศ มาใช้ในการเชื่อมโยมภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ (Integrated) โดยเชื่อมโยงภายนอกองค์กร (Connected) ด้วยก็ได้ โดยต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างน้อย 3 ฟังก์ชัน มาใช้บริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหรือการให้บริการ
2. การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) Machine Learning การนํา Big Data มาใช้ หรือการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
“กรณีผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทยต้องมีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน ส่วนกรณีอื่นต้องมีเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดิน และทุนหมุนเวียน ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนต้องมีการลงทุนและ/หรือค่าใช้จ่ายในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่พัฒนาหรือปรับปรุงโดยผู้ประกอบการไทยที่ขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล โดย ดีป้า จะสนับสนุน 30% ของมูลค่าการลงทุน สูงสุด 100 ล้านบาทต่อนิติบุคคล ตามสัดส่วนเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และเป็นโครงการที่ต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 1 ปี” ผู้อํานวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
สําหรับผู้ประกอบการที่สนใจขอรับการสนับสนุนสามารถค้นหา/คัดเลือกรายชื่อผู้ประกอบการดิจิทัลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัลของ ดีป้า ได้ทาง https://short.depa.or.th/1LOik และศึกษารายละเอียดของมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ที่ https://short.depa.or.th/yAPQ6





No comments