KKP NeXtGen: From Study to Success ก้าวสู่ปีที่ 12 เสริมศักยภาพทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ สานต่อธุรกิจครอบครัวอย่างยั่งยืน
กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เดินหน้ายกระดับศักยภาพทายาทธุรกิจรุ่นใหม่ จัดโครงการ “KKP NeXtGen: From Study to Success” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อพัฒนาองค์ความรู้และทักษะการบริหารธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยปีนี้มีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจำนวน 62 คน
หลักสูตรเข้มข้นตลอด 4 สัปดาห์ของ KKP NeXtGen ครอบคลุมหัวข้อสำคัญทั้งด้านการบริหารจัดการ การตลาด การสร้างแบรนด์ การปรับใช้แนวคิด ESG และการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับธุรกิจ รวมถึงกลยุทธ์การสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างมั่นคง
หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือการได้ เรียนรู้จากผู้บริหารและผู้ ประกอบการชั้นนำของประเทศ อาทิ
ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล Co-Founder & Managing Director, Skooldio มาร่วมเปิดมุมมองในการนำ AI มาปรับใช้ในเชิงกลยุทธ์ ดร.วิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีว่า “หากธุรกิจรู้วิธีใช้ประโยชน์จาก AI ก็จะสามารถช่วยยกระดับให้กับธุรกิจได้ แต่หากไม่ปรับตัวให้ทัน อาจเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ในที่สุด”
นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข ประธานสายวานิชธนกิจและตลาดทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ชี้ว่า “เงินทุนไม่ใช่อุปสรรคในการทำธุรกิจ หากมีแผนที่ชัด เข้าใจตลาดและลูกค้า และสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์ด้วยราคาที่แข่งขันได้ ธุรกิจครอบครัวก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง”
หลักสูตรเข้มข้นตลอด 4 สัปดาห์ของ KKP NeXtGen ครอบคลุมหัวข้อสำคัญทั้งด้านการบริหารจัดการ การตลาด การสร้างแบรนด์ การปรับใช้แนวคิด ESG และการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับธุรกิจ รวมถึงกลยุทธ์การสานต่อธุรกิจครอบครัวให้เติบโตอย่างมั่นคง
หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือการได้
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท เอสซีจี เจดับเบิลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ถ่ายทอดมุมมองเกี่ยวกับการสานต่อธุรกิจ และการบริหารธุรกิจขนส่งให้ประสบความสำเร็จ รวมไปถึงกลยุทธ์การต่อยอดธุรกิจให้เติบโตในตลาดที่มีการแข่งขันสูง และการทำให้เป็นที่รู้จักของคนในวงกว้าง โดยชี้ว่า “ความสำเร็จในอดีตไม่ใช่เครื่องยืนยันความสำเร็จในอนาคต สิ่งสำคัญคือการไม่หยุดพัฒนาและเปลี่ยนความท้าทายให้เป็นพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่”
ดร.วิโรจน์ จิรพัฒนกุล Co-Founder & Managing Director, Skooldio มาร่วมเปิดมุมมองในการนำ AI มาปรับใช้ในเชิงกลยุทธ์ ดร.วิโรจน์ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีว่า “หากธุรกิจรู้วิธีใช้ประโยชน์จาก AI ก็จะสามารถช่วยยกระดับให้กับธุรกิจได้ แต่หากไม่ปรับตัวให้ทัน อาจเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่ในที่สุด”
นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข ประธานสายวานิชธนกิจและตลาดทุน กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ชี้ว่า “เงินทุนไม่ใช่อุปสรรคในการทำธุรกิจ หากมีแผนที่ชัด เข้าใจตลาดและลูกค้า และสร้างสินค้าที่ตอบโจทย์ด้วยราคาที่แข่งขันได้ ธุรกิจครอบครัวก็สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง”
ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้ฝึกกระบวนการคิดเชิงกลยุทธ์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับทายาทธุรกิจจากหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต
นางสาวปุณยวีร์ จิตคงคา หนึ่งในผู้เข้าร่วมโครงการ กล่าวว่า “KKP NeXtGen จัดวิทยากรที่มากด้วยประสบการณ์ เปิดโอกาสให้ถามตอบอย่างใกล้ชิด และได้พบเพื่อน ๆ ที่กำลังสานต่อธุรกิจครอบครัวในหลากหลายอุตสาหกรรม ถือเป็นมิตรภาพดี ๆ และแรงบันดาลใจสำคัญที่ได้จากโครงการนี้”
นายปัณฑ์ เลิศพัฒนสุวรรณ อีกหนึ่งผู้เข้าร่วม กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการนี้ให้ความรู้ครบทุกมิติ ทั้งแรงบันดาลใจ การลงทุน ภาษีมรดก และแนวทางการสานต่อธุรกิจอย่างยั่งยืน ที่สำคัญคือเพื่อนร่วมรุ่นที่ตั้งใจเรียนรู้และพร้อมเติบโตไปด้วยกัน”
ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา KKP NeXtGen: From Study to Success ได้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพให้ทายาทธุรกิจรุ่นใหม่สามารถพัฒนาและสานต่อธุรกิจครอบครัวได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้เจตจำนงของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่พร้อมเดินเคียงข้างลูกค้า เพื่อร่วมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
เกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร
กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (KKP) เกิดขึ้นจากการร่วมกิจการระหว่างธุรกิจธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินการโดย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และธุรกิจตลาดทุนที่ดำเนินการโดยบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เกียรตินาคินภัทร จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด โดยกลุ่มธุรกิจฯ มุ่งนำทรัพยากรสู่ลูกค้าอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเปี่ยมประสิทธิภาพด้วยบริการที่เหนือความคาดหมาย
ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ของกลุ่มธุรกิจฯ ครอบคลุมสินเชื่อบรรษัท สินเชื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และสินเชื่อรายย่อย เช่นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อส่วนบุคคล ส่วนธุรกิจด้านตลาดทุนของกลุ่ มธุรกิจฯ ครอบคลุมธุรกิจวานิชธนกิจ (Investment Banking) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน ธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนส่วนบุ คคล (Wealth Management) ธุรกิจการลงทุน (Direct Investment) ตลอดจนธุรกิจจัดการกองทุน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kkpfg.com
No comments