YLG นับถอยหลังรอทองคำขาขึ้นรอบใหญ่หลังเฟดเริ่มพักการขึ้นดอกเบี้ย พบปัจจัยบวกแข็งแกร่ง ธนาคารกลางทั่วโลกยังสะสมทองเพิ่มในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
วายแอลจี เผยราคาทองคำวิ่งรับข่าวเฟดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่มองระยะสั้นอาจแกว่งตัวรับแรงเทขายทำกำไร แต่ระยะยาวรอบใหญ่ 2-3 ปี เตรียมเข้าสู่ขาขึ้น หลังเฟดประกาศการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยใกล้สิ้นสุด พร้อมรับปัจจัยหนุนธนาคารกลางทั่วโลกสะสมทองคำต่อเนื่อง 9 เดือนแรกปีนี้สะสมแล้ว 800 ตัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงเงินเฟ้อและลดการพึ่งพิงดอลลาร์ แนะนักลงทุนระยะสั้นเล่นตามการแกว่งตัวภายในกรอบ 1,971-2,003 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หลังการประชุมนโยบายการเงินประจำเดือน พ.ย. ส่งผลให้ทิศทางราคาทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมา จากการรับรู้ข่าวเหตุไม่สงบของอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ที่ได้กระตุ้นให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแล้วประมาณ 8-10% นับจากวันที่มีเหตุปะทะ อย่างไรก็ดีแม้ประธานเฟดจะกล่าวว่านโยบายดอกเบี้ยยังต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลดเงินเฟ้อให้เหลือ 2% แต่วงจรการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดรอบนี้ดำเนินมาไกลมาก และใกล้จะสิ้นสุดวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว จากการแถลงของเฟดครั้งนี้มองว่าระยะสั้นจะทำให้ทองคำอาจจะแกว่งตัวจากการขายทำกำไรจากราคาที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง แต่ระยะยาว 2-3 เมื่อดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลงทองคำจะปรับขึ้นรอบใหญ่
อย่างไรก็ตามแม้ว่าระยะสั้นทองคำจะยังไม่ได้รับปัจจัยบวกอย่างเต็มที่จากประเด็นดอกเบี้ย แต่ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับการลงทุนทั่วโลก โดยล่าสุดธนาคารกลางทั่วโลกรายงานการเข้าซื้อทองคำในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 พบว่า ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำสูงถึง 800 ตัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีธนาคารกลางจีนเป็นผู้นำในการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในช่วง 9 เดือนแรกของปี ในขณะที่ประเทศต่างๆ พยายามป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อด้วยการเข้าสะสมทองคำและลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ ปัจจัยนี้ส่งผลช่วยให้ราคาทองคำสามารถต้านทานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่พุ่งสูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ทั้งนี้ YLG มองว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นนั้นจะส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตรมากขึ้น แรงซื้อในพันธบัตรที่เพิ่มมากขึ้นนั้นจะกดดันให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรของตราสารปรับตัวลง ด้วยทิศทางเช่นนี้จึงนับเป็นการเพิ่มแรงหนุนต่อราคาทองคำด้วย
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำในช่วงนี้ YLG แนะนำระยะสั้น ซื้อขายในกรอบแนวรับ 1,953-1,971 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนวต้าน 2,003-2,021 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ซื้อขายในกรอบแนวรับ 33,300-33,600 บาทต่อบาททองคำ แนวต้านประเมินไว้ที่กรอบ 34,200-34,500 บาทต่อบาททองคำ (คำนวณด้วยค่าเงินบาท ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 เวลา 15.30 น. ที่ระดับ 36.00 บาทต่อดอลลาร์)
นอกจากนี้ YLG ยังได้มีโปรโมชันพิเศษ เมื่อเปิดพอร์ตซื้อขายทองกับ YLG Online วางเงินเพียงประกัน 50,000 บาท (จากปกติ 100,000 บาท) หรือวางทองเริ่มต้น 2 บาททอง โดยสามารถซื้อทอง 99.99% ได้ทอง 1 กิโลกรัม หรือซื้อทอง 96.5% ได้ทองถึง 10-60 บาททอง ระยะเวลาตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2566 สนใจสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ได้ที่ : https://bit.ly/3REoCQx ส่วนนักลงทุนรายย่อยที่ไม่อยากพลาดโอกาสลงทุนในทองคำ วายแอลจีได้ออกแบบแอปพลิเคชันออมทง by YLG (Get Gold by YLG) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง และเข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ทโฟน โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/40npYkF หรือโทร. 0-2678-9888 #2
No comments