นายกฯ มั่นใจดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทยตามเป้า ผลักดันให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว พร้อมเปิดตัวแคมเปญ Amazing Thailand : Your Stories Never End กระตุ้นตลาดต่างประเทศ
วันนี้ (7 มีนาคม 2567) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรม The Amazing Thailand Networking Event with the Prime Minister of Thailand ณ อาคาร City Cube Berlin ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการเข้าร่วมงาน Internationale Tourismus Borse หรือ ITB Berlin 2024 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยได้รับเกียรติจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พร้อมด้วย นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และผู้บริหาร ททท. รวมถึงสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 200 คน เข้าร่วมงาน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2024 นี้เป็นการมาร่วมงานครั้งแรก และเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท ขณะที่สำหรับตลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ททท.ได้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวจำนวน 8.5 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 664,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย Ease of Traveling เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจในการเดินทางมาสู่ประเทศไทย เพื่อท่องเที่ยวหรือการค้าการลงทุน อาทิ การยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา การขยายเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นอีกกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในไทย นอกจากนี้ ยังได้ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไต้หวัน และอินเดียถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ตลอดจนยกเว้นวีซ่า และขยายระยะเวลาให้นักท่องเที่ยวรัสเซียอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 90 วันจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 และการยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 ที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ซึ่งสำหรับตลาดยุโรป รัฐบาลจะดำเนินการเจรจาขอฟรีวีซ่ากับประเทศในกลุ่มเชงเก้นเช่นเดียวกัน และสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน รัฐบาลจะหารือร่วมกันในการเปิด “One Visa, Free your Destination” เพื่อให้สามารถเดินทางภายในภูมิภาคได้อย่างไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ท้องถิ่นพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง นอกเหนือจากเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยคุณค่าในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการปรับกฎระเบียบให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว เช่น ขยายเวลาเปิดสถานบริการ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ภายในงาน ททท. ได้เปิดตัวแนวคิดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับตลาดต่างประเทศ Amazing Thailand : Your Stories Never End นำเสนอเรื่องราวที่บอกเล่าอย่างไม่รู้จบ ผ่านการส่งต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเป็นการต่อยอดแนวคิดทางการสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวสำหรับตลาดต่างประเทศที่มุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่มีความหมายต่อตนเอง สังคม ผู้คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย (Meaningful Travel) และเกิดเป็นความทรงจำ ความประทับใจที่มีคุณค่าและไม่อาจลืมเลือนได้ (Unforgettable Experience) นำเสนอสินค้า บริการทางการท่องเที่ยวและประสบการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยผ่านเรื่องราวที่แสดงให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าทุกการเดินทางมาเมืองไทยไม่ได้จบลงที่แค่การได้มายังประเทศไทย แต่ยังคงเป็นเรื่องราวความประทับใจอยู่ในความทรงจำที่พร้อมจะถูกบอกเล่าต่อไปอย่างไม่รู้จบ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมงาน ITB Berlin 2024 นี้เป็นการมาร่วมงานครั้งแรก และเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้ตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2567 สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท ขณะที่สำหรับตลาดยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง ททท.ได้ตั้งเป้านักท่องเที่ยวจำนวน 8.5 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 664,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย Ease of Traveling เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจในการเดินทางมาสู่ประเทศไทย เพื่อท่องเที่ยวหรือการค้าการลงทุน อาทิ การยกเว้นวีซ่าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเริ่มในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา การขยายเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางสัญชาติคาซัคสถานซึ่งเป็นอีกกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ออกไปจนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2567 เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในไทย นอกจากนี้ ยังได้ยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไต้หวัน และอินเดียถึงวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ตลอดจนยกเว้นวีซ่า และขยายระยะเวลาให้นักท่องเที่ยวรัสเซียอยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 90 วันจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 และการยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 ที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2566 ซึ่งสำหรับตลาดยุโรป รัฐบาลจะดำเนินการเจรจาขอฟรีวีซ่ากับประเทศในกลุ่มเชงเก้นเช่นเดียวกัน และสำหรับกลุ่มประเทศอาเซียน รัฐบาลจะหารือร่วมกันในการเปิด “One Visa, Free your Destination” เพื่อให้สามารถเดินทางภายในภูมิภาคได้อย่างไร้รอยต่อ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งส่งเสริมประชาสัมพันธ์อัตลักษณ์ท้องถิ่นพื้นที่ท่องเที่ยวเมืองรอง นอกเหนือจากเมืองหลักที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยคุณค่าในจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย รวมถึงรัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการปรับกฎระเบียบให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยว เช่น ขยายเวลาเปิดสถานบริการ เวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยจะดึงเอาวัฒนธรรม งานประเพณี อัตลักษณ์ของประเทศซึ่งเป็น soft power ที่โดดเด่นมาเป็นจุดขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมายให้กับนักท่องเที่ยว โดยยกระดับงานประเพณีที่สำคัญให้เป็นเทศกาลระดับนานาชาติ ซึ่งในวาระอันใกล้นี้ คือ เทศกาลมหาสงกรานต์ ที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการในบัญชีตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ โดยได้จัดกิจกรรม Maha Songkran World Water Festival 2024 ซึ่งทางรัฐบาลไทยได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่และส่งเสริมให้มีการจัดงานทั่วประเทศ กระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ และประชาสัมพันธ์ให้งานสงกรานต์ของไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล ชูจุดขายเป็นเสน่ห์ของประเทศไทย ให้โดดเด่นในสายตาประชาคมโลก นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนการจัดเทศกาลระดับนานาชาติอื่น ๆ ในประเทศไทย รวมถึงเทศกาลดนตรี คอนเสิร์ต อีกด้วย
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการบินของอาเซียน รัฐบาลไทยได้มีแผนในการสร้างท่าอากาศยานนานาชาติล้านนาและท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี ในขณะเดียวกัน ได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพเชื่อมโยงของการเดินทาง ปรับปรุงยกระดับท่าอากาศยานต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มศักยภาพในการรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศและการต่อเที่ยวบินในประเทศให้เต็มประสิทธิภาพ โดยปรับปรุงกระบวนการภาคพื้นดินและลดระยะเวลากระบวนการผู้โดยสารทั้งขาเข้าและขาออก ขยายและปรับการจัดสรรสล็อตขึ้นลงอากาศยานให้เหมาะสมกับการรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศมากขึ้น ลดค่าบริการขึ้นลงอากาศยานและเพิ่มค่าธรรมเนียมการ Delay เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนและรองรับเที่ยวบินให้มากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพมาตรฐานความปลอดภัยทั้งกระบวนการภาคพื้นดินและทางอากาศ รวมถึงจะร่วมมือกับพันธมิตรสายการบินต่าง ๆ ในการขยายเส้นทางบินใหม่ และเพิ่มเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยให้ ททท.เตรียมจัดกิจกรรม “Air-mazing Thailand : The Amazing Airline FAM Trip” เพื่อโชว์ศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการบิน (Aviation Hub) ที่เชื่อมโยงการเดินทางของภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง
ภายในงาน ททท. ได้เปิดตัวแนวคิดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์สำหรับตลาดต่างประเทศ Amazing Thailand : Your Stories Never End นำเสนอเรื่องราวที่บอกเล่าอย่างไม่รู้จบ ผ่านการส่งต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยเป็นการต่อยอดแนวคิดทางการสื่อสารการตลาดท่องเที่ยวสำหรับตลาดต่างประเทศที่มุ่งเน้นให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่มีความหมายต่อตนเอง สังคม ผู้คนรอบข้าง และสิ่งแวดล้อม จากการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทย (Meaningful Travel) และเกิดเป็นความทรงจำ ความประทับใจที่มีคุณค่าและไม่อาจลืมเลือนได้ (Unforgettable Experience) นำเสนอสินค้า บริการทางการท่องเที่ยวและประสบการณ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยผ่านเรื่องราวที่แสดงให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าทุกการเดินทางมาเมืองไทยไม่ได้จบลงที่แค่การได้มายังประเทศไทย แต่ยังคงเป็นเรื่องราวความประทับใจอยู่ในความทรงจำที่พร้อมจะถูกบอกเล่าต่อไปอย่างไม่รู้จบ
No comments