Header Ads

FORTUNE ประกาศการ จัดอันดับรายชื่อ SOUTHEAST ASIA 500

.com/img/a/

 

หนึ่งในภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในโลก ล่าสุดได้มีรายชื่อ Fortune 500 เป็นของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย
การจัดอันดับครั้งแรกนี้ประกอบด้วยบริษัทจากประเทศไทย 107 แห่ง โดยมี 6 บริษัทที่ถูกจัดอยู่ใน 20 อันดับแรก

ภาคพลังงานสร้างรายได้มากที่สุดโดยมีบริษัทปตท. (PTT) จัดอยู่ในอันดับสอง นอกจากนี้ ซีอีโอบริษัทบ้านปู (BANPU) ยังครองตำแหน่งผู้บริหารที่มีอายุน้อยที่สุดในรายชื่อ ในขณะที่มีซีอีโอหญิงจำนวน 30 คนจาก 500 บริษัท ตอกย้ำถึงความหลากหลายภายในภูมิภาค
ดูรายชื่อบริษัททั้งหมดได้ที่: Fortune.com/asia/ranking/southeast-asia-500/2024/

ประเทศไทย วันที่ 18 มิถุนายน 2567 - วันนี้ทาง Fortune ได้เผยการจัดอันดับ Southeast Asia 500 ปี 2567 เป็นครั้งแรก โดยมีรายชื่อของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถูกจัดอันดับตามรายได้สำหรับปีงบประมาณ 2566 Fortune ได้มุ่งเน้นภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่มีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในเศรษฐกิจโลก ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในภูมิภาค

การจัดอันดับครั้งแรกนี้ประกอบไปด้วยบริษัทจาก 7 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา โดยอินโดนีเซียครองอันดับหนึ่งด้วยรายชื่อบริษัทติดอันดับสูงสุดถึง 110 บริษัท ในขณะที่ประเทศไทยตามมาด้วย 107 บริษัท มาเลเซีย 89 บริษัท แซงหน้าสิงคโปร์ที่มี 84 บริษัท ตามด้วยเวียดนามที่ติดอันดับ 70 บริษัท ฟิลิปปินส์อยู่ที่ 38 บริษัท และกัมพูชาที่ 2 บริษัท

ในด้านรายได้ บริษัทค้าสินค้าโภคภัณฑ์ Trafigura ของประเทศสิงคโปร์ครองอันดับที่ 1 ด้วยยอดขาย 244 พันล้านดอลลาร์ จากการจำหน่ายแร่ธาตุ โลหะ และพลังงาน โดยมีจำนวนพนักงานน้อยที่สุดในบรรดาบริษัทชั้นนำ 10 อันดับแรก เมื่อพิจารณาตามรายได้ และเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้มากเป็นอันดับสองในกลุ่มนี้

บริษัท 10 อันดับแรกใน Southeast Asia 500 เป็นกลุ่มบริษัทที่มีความหลากหลาย โดยภาคพลังงานมีบริษัทที่ติดอันดับสูงสุดจำนวน 3 บริษัทด้วยกัน ได้แก่ปตท. (PTT) ของไทยเข้ามาอยู่ในอันดับที่ 2 Pertamina ของอินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 3 และบริษัทไฟฟ้าภาครัฐของอินโดนีเซีย Perusahaan Listrik Negara อยู่ในอันดับที่ 6 อีกประเด็นที่น่าสนใจคือสิงคโปร์มีจำนวนบริษัทที่ติดอันดับมากที่สุดใน 10 อันดับแรก โดยมี Trafigura อยู่อันดับแรก ตามมาด้วย Wilmar ที่อันดับ 4 Olam ที่อันดับ 5 Flex ที่อันดับ 8 และ DBS ที่อันดับ 10 นอกจากนี้ ในสิบอันดับแรกยังมี CP All ของไทยอยู่ที่อันดับ 7 และ San Miguel ของฟิลิปปินส์ที่อันดับ 9 อีกสามบริษัทจากไทยที่ติดอันดับ 20 บริษัททำรายได้สูงสุดได้แก่: อินโดรามา เวนเจอร์ส (Indorama Ventures) อยู่ที่อันดับ 14 ปูนซิเมนต์ไทย (Siam Cement) อยู่ที่อันดับ 16 และ ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CP Axtra) อยู่ที่อันดับ 19

บริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกได้รับรายงานว่ามีรายได้ถึง 6.5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสามของรายได้รวมในงบประมาณปี 2566 จากบริษัททั้งหมดใน Southeast Asia 500 ซึ่งมีรายได้ทั้งสิ้น 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เกณฑ์รายได้ขั้นต่ำในการมีรายชื่ออยู่ใน Southeast Asia 500 คือ 460.8 ล้านดอลลาร์

ด้วยรายได้รวมอยู่ที่ 2.42 แสนล้านดอลลาร์ การธนาคารจึงเป็นภาคส่วนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สำคัญ ธนาคาร 9 แห่งติดหนึ่งใน 20 บริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุด โดยนำด้วยธนาคาร DBS ของสิงคโปร์ทั้งในด้านรายรับและผลกำไร

ภาพรวมของ Southeast Asia 500 ในปีที่ผ่านมามีรายได้และผลกำไรที่ลดลง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากธุรกิจภาคพลังงานที่ถดถอยลง จึงได้บดบังการเติบโตที่น่าประทับใจในหลายอุตสาหกรรม บริษัทที่มีการเติบโตอย่างน่าประทับใจได้แก่สายการบินเช่น การบินไทย (Thai Airways) บริษัทเหมืองแร่ในอินโดนีเซียเช่น Harita Nickel และ Merdeka Battery Materials รวมถึงบริษัทประกันภัยและธนาคารอีกมากมาย

Clay Chandler บรรณาธิการบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า "การจัดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 สะท้อนให้เห็นถึงภูมิภาคที่มีโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจหลักเติบโตเร็วกว่าภูมิภาคยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความสำคัญมากขึ้นในเศรษฐกิจโลก เนื่องจากบริษัทข้ามชาติที่ติดอันดับ Global 500 หลายแห่งได้ย้ายห่วงโซ่อุปทานการผลิตไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น"

ในการนำเสนอรายชื่อใหม่ที่จะถูกเผยแพร่บน Fortune.com และ Fortune Asia ฉบับเดือนมิถุนายน/ กรกฎาคม คุณ Clay ตั้งข้อสังเกตว่า "Southeast Asia 500 จะติดตามการเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจด้านสินค้าโภคภัณฑ์ การขนส่ง การเงิน การค้าปลีก เทคโนโลยี หรือการให้บริการ ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปีต่อ ๆ ไป"

อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ในภูมิภาคที่นักวิเคราะห์ของ Fortune สังเกตเห็น คือการที่มีซีอีโอและประธานบริษัทหญิง ประมาณ 30 คน จากกลุ่ม Southeast Asia 500 และมีซีอีโอที่อายุน้อยที่สุดคือ นายศินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทบ้านปู (BANPU) ของประเทศไทย ซึ่งมีอายุ 34 ปี และได้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยรวมแล้วมีผู้นำในวัย 30 กว่า ๆ ทั้งสิ้น 16 คน ดำรงตำแหน่งซีอีโอ, กรรมการผู้จัดการ, ประธานกรรมการบริหารหรือประธานบริษัท และในจำนวน 500 บริษัทนี้ ว่าจ้างพนักงานรวมแล้วเกือบ 6 ล้านคนด้วยกัน

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เผยแพร่ Southeast Asia 500 ให้กับผู้อ่านของเราทั่วโลก เราได้ต่อยอดจากประวัติศาสตร์ 70 ปีของการเผยแพร่ Fortune 500 ด้วยการจัดลำดับ Southeast Asia 500 ใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งเราจะเน้นไปที่เรื่องราวการเติบโตที่น่าประทับใจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริษัทอันดับต้น ๆ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจอันหลากหลายในภูมิภาคนี้" Khoon-Fong Ang หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการประจำภูมิภาคเอเชียของ Fortune กล่าวทิ้งท้าย

ด้วยการเปิดตัวรายชื่อ Southeast Asia 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ได้รับการยอมรับจากการรวมตัวกันภายใต้กลุ่ม Fortune 500 อันทรงเกียรติ ซึ่งประกอบด้วย Fortune 500 Global, Fortune 500 Europe, Fortune China 500 และ Fortune Southeast Asia 500 ใหม่นี้

รายชื่อและเรื่องราวของ Fortune Southeast Asia 500 จะวางจำหน่ายบนแผงขายหนังสือพิมพ์ทั่วเอเชียตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนเป็นต้นไป

ข้อมูลเกี่ยวกับ Fortune:

Fortune คือบริษัทสื่อหลายแพลตฟอร์มระดับโลกที่สร้างขึ้นจากการรายงานข้อมูลที่เชื่อถือได้และได้รับรางวัลสำหรับผู้ที่ต้องการทำให้ธุรกิจดีขึ้น โดยมีการดำเนินกิจการอย่างอิสระ นอกจากนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกและผู้นำของบริษัทต่างๆ รวมถึงนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ที่กำลังขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า Fortune วัดประสิทธิภาพองค์กรผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่เข้มงวด ทั้งในรูปแบบดิจิทัลและสิ่งพิมพ์ และกำหนดให้บริษัทต่างๆ มีความรับผิดชอบในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก การจัดอันดับที่โดดเด่น ได้แก่ Fortune 500 Fortune Global 500 Most Powerful Women และ World's Most Admired Companies

Fortune ยังสร้างกลุ่มเครือข่ายระดับโลกด้วยการเชิญผู้นำทางความคิดในอุตสาหกรรมเข้าร่วมการประชุมสุดยอดและพิเศษที่ทาง Fortune ได้จัดขี้น รวมถึง Fortune Global Forum และ Brainstorm Tech สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ fortune.com.

ภาคผนวก 1: 20 อันดับบริษัท Southeast Asia 500 เรียงตามรายได้และผลกำไร

บริษัท 20 อันดับแรกตามรายได้

อันดับ

บริษัท

ที่ตั้งสำนักงานใหญ่

ประเภทธุรกิจ

1

Trafigura Group

สิงคโปร์

ซื้อขายสินค้า

2

PTT

ประเทศไทย

การกลั่นปิโตรเลียม

3

Pertamina

อินโดนีเซีย

การกลั่นปิโตรเลียม

4

Wilmar International

สิงคโปร์

การผลิตอาหาร

5

Olam Group

สิงคโปร์

จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค

6

Perusahaan Listrik Negara

อินโดนีเซีย

สินค้าสาธารณูปโภค การจำหน่ายแก๊สและไฟฟ้า

7

CP All

ประเทศไทย

อาหารและยา

8

Flex

สิงคโปร์

สินค้าอิเล็กทรอนิกส์  อุปกรณ์ไฟฟ้า

9

San Miguel

ฟิลิปปินส์

เครื่องดื่ม

10

DBS Group Holdings

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

11

United Overseas Bank

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

12

Oversea-Chinese Banking

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

13

Charoen Pokphand Foods

ประเทศไทย

การผลิตอาหาร

14

Indorama Ventures

ประเทศไทย

ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์

15

Bank Rakyat Indonesia

อินโดนีเซีย

ธนาคารพาณิชย์

16

Siam Cement

ประเทศไทย

วัสดุก่อสร้าง กระจก

17

Maybank

มาเลเซีย

ธนาคารพาณิชย์

18

Singapore Airlines

สิงคโปร์

สายการบิน

19

CP Axtra

ประเทศไทย

อาหารและยา

20

Sea

สิงคโปร์

บริการอินเทอร์เน็ตและการค้าปลีก

20 อันดับบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุด

1

DBS Group Holdings

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

2

Trafigura Group

สิงคโปร์

ซื้อขายสินค้า

3

Oversea-Chinese Banking

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

4

Pertamina

อินโดนีเซีย

การกลั่นปิโตรเลียม

5

United Overseas Bank

สิงคโปร์

ธนาคารพาณิชย์

6

Bank Rakyat Indonesia

อินโดนีเซีย

ธนาคารพาณิชย์

7

Bank Mandiri

อินโดนีเซีย

ธนาคารพาณิชย์

8

PTT

ประเทศไทย

การกลั่นปิโตรเลียม

9

Bank Central Asia

อินโดนีเซีย

ธนาคารพาณิชย์

10

Keppel

สิงคโปร์

อสังหาริมทรัพย์

11

Maybank

มาเลเซีย

ธนาคารพาณิชย์

12

Singapore Airlines

สิงคโปร์

สายการบิน

13

Adaro Energy Indonesia

อินโดนีเซีย

การทำเหมืองแร่ การผลิตน้ำมันดิบ

14

Singtel

สิงคโปร์

โทรคมนาคม

15

Telkom Indonesia

อินโดนีเซีย

โทรคมนาคม

16

MIND ID

อินโดนีเซีย

การทำเหมืองแร่ การผลิตน้ำมันดิบ

17

CIMB Group Holdings

มาเลเซีย

ธนาคารพาณิชย์

18

Wilmar International

สิงคโปร์

การผลิตอาหาร

19

Public Bank

มาเลเซีย

ธนาคารพาณิชย์

20

Perusahaan Listrik Negara

อินโดนีเซีย

สินค้าสาธารณูปโภค การจำหน่ายแก๊สและไฟฟ้า











































         
ภาคผนวก 2: ระเบียบวิธีของ Fortune Southeast Asia 500

ระเบียบวิธี

บริษัทต่างๆ ได้รับการจัดอันดับตามรายได้รวมสำหรับปีงบประมาณล่าสุดที่สิ้นสุดในหรือก่อนวันที่ 31 ธันวาคม 2023 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น บริษัททั้งหมดที่อยู่ในรายชื่อจะต้องเผยแพร่ข้อมูลทางการเงินและรายงานตัวเลขบางส่วนหรือทั้งหมดต่อหน่วยงานของรัฐ ตัวเลขเป็นไปตามที่รายงาน และการเปรียบเทียบกับตัวเลขของปีก่อนสำหรับปีนั้น ตัวเลขรายได้และกำไรสำหรับบริษัทที่รายงานในสกุลเงินท้องถิ่นของตนจะถูกแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในช่วงปีบัญชีของแต่ละบริษัท (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น)

รายได้

ตัวเลขรายได้ประกอบด้วยบริษัทในเครือและรายได้ที่รายงานจากการดำเนินงานที่ยกเลิก สำหรับธนาคารรายได้คือผลรวมของรายได้ดอกเบี้ยรวมและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย สำหรับบริษัทประกันภัยรายได้ประกอบด้วยรายได้เบี้ยประกันภัยและรายได้งวดปี รายได้จากการลงทุน กำไรหรือขาดทุนจากการลงทุนที่รับรู้ และรายได้อื่นๆ แต่ไม่รวมเงินฝาก

ผลกำไร

กำไรจะแสดงหลังหักภาษี เครดิตหรือค่าธรรมเนียมพิเศษ และผลสะสมของการเปลี่ยนแปลงทางบัญชี ก่อนเงินปันผลหุ้นบุริมสิทธิ สำหรับกำไรจากส่วนได้เสียที่ไม่มีการ ควบคุม (ส่วนน้อย) จะไม่รวมอยู่ด้วย ในด้านของ REIT และ Trusts จำนวนเงินที่สามารถจัดสรรให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนจะแสดงเป็นกำไร ตัวเลขในวงเล็บแสดงถึงการสูญเสีย กำไรที่ลดลงมากกว่า 100% สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงจากผลกำไรในปี 2565 ไปสู่การขาดทุนในปี 2566

งบดุล

สินทรัพย์ ณ สิ้นปีบัญชีของบริษัท ตัวเลขจะถูกแปลงเป็นดอลลาร์สหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นปีบัญชีของแต่ละบริษัท

ภาคผนวก 3: Fortune Southeast Asia 500 ฉบับเดือนมิถุนายน/กรกฎาคม

No comments

Powered by Blogger.