Header Ads

งาน THAIFEX-Anuga Asia 2024 ซึ่งนับว่ามีขนาดใหญ่และมีอิทธิพลมากที่สุด ได้สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมตอกย้ำถึงจุดยืนของงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับชั้นนำของเอเชีย งานปีนี้อยู่ภายใต้ธีม "Beyond Food Experience" จัดแสดงนวัตกรรมล้ำยุค ส่งเสริมความร่วมมือระดับนานาชาติ และนำเสนอเทรนด์ของอุตสาหกรรมในอนาคต

 


THAIFEX%20-%20Anuga%20Asia%202024%20Visitors

THAIFEX - Anuga Asia 2024 ได้สร้างสถิติใหม่ด้วยจำนวนผู้แสดงสินค้า 3,133 รายจาก 52 ประเทศจากภูมิภาคต่าง ๆ ผู้เยี่ยมชม 85,850 ราย จาก 131 ประเทศจากภูมิภาคต่าง ๆ โดยเป็นชาวต่างชาติ 19,984 ราย (เพิ่มขึ้น 21.6% จากปี 2566) ในบรรดาผู้จัดแสดงสินค้า มีชาวต่างชาติจำนวน 2,024 ราย รวมผู้เข้าร่วมงานรายใหม่จาก 9 ประเทศ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในงานปีนี้ ประกอบไปด้วย โบลิเวีย สาธารณรัฐเช็ก อียิปต์ ไอวอรี่โคสต์ มาซิโดเนีย เม็กซิโก เยเมน คาซัคสถาน และโอมาน พื้นที่จัดบูธของผู้จัดแสดงสินค้าจากต่างประเทศโดยภาพรวมมีขนาดใหญ่มากกว่าโซนอื่น ๆ โดยเพิ่มขึ้นราว 12% เมื่อเทียบกับงานแสดงสินค้าครั้งก่อน ๆ ส่วนจำนวนประเทศและเมืองเพิ่มจาก 39 ประเทศและเมืองที่เข้าร่วมในงาน THAIFEX - Anuga Asia 2023 เป็น 57 ประเทศและเมืองในปีนี้

Mathias Kuepper กรรมการผู้จัดการและรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ Koelnmesse กล่าวว่า “THAIFEX - Anuga Asia ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญในระดับนานาชาติอีกครั้ง โดยสามารถดึงดูดผู้เข้าร่วมงานจากทั่วโลก และยังช่วยเสริมสร้างเครือข่ายที่น่าเชื่อถือในอุตสาหกรรม ตลอดระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านมา Koelnmesse มีบทบาทสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า ซึ่งงานแสดงสินค้าต่าง ๆ รวมทั้ง THAIFEX - Anuga Asia ก็ยังคงเป็นเสมือนสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจ ผู้คน และประเทศต่าง ๆ”

THAIFEX - Anuga Asia 2024 มีโซนแสดงสินค้า 11 หมวดหลัก พื้นที่จัดแสดงสินค้าพิเศษ 6โซน และฮอลล์เกี่ยวกับเทรนด์ธุรกิจจำนวน 11 เทรนด์ รวมทั้งกิจกรรมพิเศษ 3 รายการ รวมถึงกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เวทีสัมมนาพูดคุยในหัวข้อ Future Food Experience+ พร้อมด้วยการแข่งขันสุดยอดเชฟไทยแห่งปี Thailand Ultimate Chef Challenge

การขยายงานสู่ระดับนานาชาติในปี2568

“เราเห็นความสนใจอย่างมากของผู้จัดแสดงสินค้าจากนานาประเทศในงาน THAIFEX - Anuga Asia ที่ต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจในปี 2568 ซึ่งมีแรงขับเคลื่อนมาจากผลประโยชน์มหาศาลและผลลัพธ์ความสำเร็จที่พวกเขาได้รับจากงานปีนี้” Wendy Lim ผู้จัดการทั่วไปเกี่ยวกับการจัดแสดงสินค้าอาหารและเทคโนโลยีอาหาร ประจำภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิกของ Koelnmesse ได้กล่าวไว้

บูธของ The Italian Pavilion ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนการค้ากลุ่มองค์กรต่าง ๆ จากอิตาลี ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่เป็น 2 เท่าเพื่อจัดแสดงแบรนด์สินค้าต่าง ๆ จำนวน 50-100 แบรนด์ เนื่องจากความสนใจเกี่ยวกับอาหารอิตาเลียนในประเทศไทยที่มีเป็นจำนวนมาก รวมทั้งในเวียดนาม กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซีย สำหรับกลุ่มบริษัทต่าง ๆ จากมาเลเซีย ได้วางแผนเพิ่มพื้นที่จาก 270 ตารางเมตร เป็น 432 ตารางเมตร บูธของบริษัทต่าง ๆ จากมาเก๊า ที่บริหารจัดการโดยสถาบันส่งเสริมการค้าและการลงทุนมาเก๊า ซึ่งเข้าร่วมจัดแสดงงานเป็นครั้งแรกในปีนี้ ได้วางแผนเพิ่มพื้นที่เป็น 2 เท่าในปี 2568 เช่นเดียวกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมูลค่าที่เกิดจากสร้างพันธมิตรภายงานในปีนี้

การทำข้อตกลงร่วมกัน

Jannis Theileis ผู้จัดการทั่วไปของ Powermints ซึ่งเป็นผู้จัดแสดงสินค้าของบูธประเทศเยอรมนี กล่าวว่า "นี่เป็นงานแสดงสินค้าที่ก่อให้เกิดความร่วมมือมากที่สุดเท่าที่ฉันเคยเข้าร่วมมา”

เหตุผลหลักที่ทำให้บูธจัดแสดงสินค้าของประเทศต่าง ๆ ได้รับความสนใจอย่างมาก เป็นเพราะผู้ซื้อซึ่งมีศักยภาพทางธุรกิจสูงที่แต่ละบูธได้มีโอกาสพูดคุยและสร้างปฏิสัมพันธ์ด้วยนั้นมีจำนวนมากและมาจากหลากหลายประเทศทั่วโลก โดยคณะผู้จัดงาน THAIFEX - Anuga Asia ได้คัดเลือกและเรียนเชิญผู้ซื้อจำนวน 1,935 ราย จาก 46 ประเทศจากภูมิภาคต่าง ๆ ให้เข้าร่วมงาน

Joel Leong หัวหน้าฝ่ายธุรกิจระดับภูมิภาคของ Surya Foods ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ซื้อ กล่าวว่า “นับถึงตอนนี้ ฉันเคยไปร่วมงาน THAIFEX - Anuga Asia มากกว่า 10 ครั้ง ซึ่งล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจมาก เมื่อเปรียบเทียบกับนิทรรศการอื่น ๆ ที่เคยเข้าร่วมมาแล้วทั่วโลก เราใช้ซัพพลายเออร์กว่า 50 รายที่หาได้จากงาน THAIFEX - Anuga Asia ดังนั้น เราจึงมาที่นี่เพื่อพบกับซัพพลายเออร์ของเราแทนที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อพบพวกเขา”

ผู้จัดแสดงสินค้าจากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศญี่ปุ่น (JETRO) กล่าวว่า พวกเขาได้สร้างโอกาสทางการขายกับผู้ซื้อที่ไม่ใช่เพียงแค่จากประเทศไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา และเวียดนามเท่านั้น แต่ยังรวมทั้งเยอรมนี ดูไบ และประเทศอื่น ๆ ในยุโรปอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้จัดแสดงสินค้ารายอื่น ๆ ยังได้กล่าวถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ซื้อจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ แอฟริกา และอเมริกา  

ความก้าวหน้าระหว่างพันธมิตร

งาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 ถือเป็นศูนย์กลางความร่วมมือและการสร้างพันธมิตรใหม่ๆ การประกาศที่สำคัญ คือ กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา (USDA) ให้การรับรอง THAIFEX - Anuga Asia ในฐานะคู่พันธมิตรทางการค้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2568 เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศให้บริษัทด้านอาหารและเครื่องดื่มของสหรัฐอเมริกาในตลาดเอเชีย บูธของสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขนาดเป็น 2 เท่าสำหรับใช้เป็นร้านกาแฟ และพื้นที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง รวมทั้งนวัตกรรมโซลูชั่นที่หลากหลายจากอเมริกา

ทางด้านประเทศโปแลนด์ได้เสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีกับประเทศไทย ด้วยการส่งคณะผู้แทนเข้าเยี่ยมชมงานจำนวนมาก และจัดการประชุมเชิงกลยุทธ์เพื่อจับคู่ทางธุรกิจในปีนี้

Norbert Bak หัวหน้าสำนักงานการลงทุนและการค้าโปแลนด์ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่เห็นงานแสดงสินค้าจัดงานได้เหนือความคาดหมาย ทั้งในเรื่องของขนาดและศักยภาพในการสร้างโอกาสขาย การบริหารจัดการของที่นี่สมบูรณ์แบบจริงๆ”

สำหรับบูธของสภาอาหารทะเลนอร์เวย์ได้ขยายพื้นที่ให้สามารถครอบคลุมผู้ส่งออกชาวนอร์เวย์ 22 ราย และได้เผยแพร่รายงานประจำปีฉบับที่สี่ภายใต้หัวข้อ Top Seafood Consumer Trends, Oceans of Change หรือเทรนด์อาหารทะเลที่ผู้บริโภคนิยม: มหาสมุทรแห่งความเปลี่ยนแปลง โดยรายงานได้กล่าวถึงการเติบโตของอาหารทะเลส่งออกจากนอร์เวย์โดยรวมมายังประเทศไทยคิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปี 2566 ซึ่งมีมูลค่าอยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท

เทรนด์แห่งนวัตกรรม

งาน THAIFEX - Anuga Asia 2024 เปิดโอกาสอย่างมากให้ผู้เข้าร่วมงานได้สำรวจอนาคตของอาหาร บนเวทีสัมมนาเรื่อง Future Food Experience+ ซึ่งมีวิทยากรรับเชิญ 33 คน และตัวแทนบริษัทสตาร์ตอัป 13 คน ได้พูดคุยและอภิปรายร่วมกันทั้งหมด 28 talk & panel เซสชัน บรรดาหัวข้อต่าง ๆ นั้นรวมถึงเรื่องความก้าวหน้าด้านโภชนาการ การแปรรูปที่ยั่งยืน นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง และเทรนด์ด้านอาหารและเครื่องดื่ม

งานแสดงนวัตกรรมกลุ่มสินค้าพิเศษ tasteInnovation Show การประกวดโปรตีนทดแทนที่เน้นความอร่อยและรสชาติทางเลือก และบูธสตาร์ตอัป THAIFEX – Anuga Asia ได้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาเกี่ยวกับอาหารจากพืชและโปรตีนทางเลือก เช่น โปรตีนที่ได้จากเห็ด ซึ่งนำมาเป็นส่วนผสมในอาหารและของว่างพร้อมรับประทาน โดยไม่ทำให้รสชาติหรือเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป

อาหารที่ได้รับการรับรองฮาลาลนับเป็น 20% ของผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดงภายในงาน โดยมีสินค้าที่จัดแสดงจำนวน 1,035 รายการ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทานมากกว่า 900 รายการ รวมทั้งของว่างและอาหารเสริมสารอาหาร คิดเป็น 19% ของผลิตภัณฑ์ที่จัดแสดง

การแข่งขันสุดยอดเชฟไทยแห่งปี (Thailand Ultimate Chef Challenge-TUCC)

หนึ่งในการแข่งขันทำอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชีย ได้รวบรวมเชฟมากกว่า 434 คน มาร่วมแข่งขันใน 23 หมวด คณะกรรมการตัดสินประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ 46 คน โดยมีเชฟจำนวน 6 คน ที่ได้รับรางวัลสุดยอดเชฟไทยแห่งปีจากการแข่งตามหมวดของตนเอง ได้แก่:

• รางวัล Best Ultimate Pastry Chef Award หรือรางวัลสุดยอดเชฟอบขนมยอดเยี่ยม ได้แก่ Ju Yeon Anh (เกาหลี)

• รางวัล Best Ultimate Junior Chef Award หรือรางวัลสุดยอดเชฟรุ่นเยาว์ยอดเยี่ยม ได้แก่ ณัฐพล คุณยอดยิ่ง (สมาคมเชฟเชียงใหม่)

• รางวัล Ultimate Professional Chef Award หรือรางวัลสุดยอดเชฟมืออาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ จาตุรงค์ มยุโรวาส (สมาคมเชฟเชียงใหม่)

• รางวัล Best Ultimate Asian Chef Award หรือรางวัลสุดยอดเชฟเอเชียยอดเยี่ยม ได้แก่ อนุชิต แสงอ่อน (Vinum Wine & Bistro)

• รางวัล Best Ultimate Establishment Award หรือรางวัลสุดยอดสถานประกอบการที่ดีที่สุด ได้แก่ สมาคมเชฟเชียงใหม่

• รางวัล Best Ultimate Asian Gourmet Challenge Award หรือรางวัลสุดยอดความเป็นเลิศด้านอาหารเอเชียยอดเยี่ยม ได้แก่ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา

ผลลัพธ์ต่อเศรษฐกิจและภูมิภาค

THAIFEX - Anuga Asia มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจพัฒนาและเติบโตต่อไปได้ โดยมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจฐานราก ผ่านจำนวนลูกค้าภาคท่องเที่ยวและภาคบริการที่เพิ่มสูงขึ้น ทางด้านเซสชันการจับคู่ธุรกิจถือว่ามีส่วนส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือ และการสร้างพันธมิตรที่มีค่าอย่างยิ่ง รวมทั้งช่วยให้บริษัทที่เกี่ยวข้องสามารถขยายโอกาสทางธุรกิจได้

Mark Law เลขานุการของกลุ่มบริษัทต่าง ๆ จากมาเลเซีย ชี้ให้เห็นว่าผู้แสดงสินค้าชาวมาเลเซียทั่วทั้งงานปิดการเจรจาการค้ามูลค่า 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 วันแรกของงาน ทางด้าน Nam Seng Food Industries Sdn Bhd ได้ปิดข้อตกลงมูลค่า 300,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ กับผู้ซื้อชาวแคนาดาในวันแรกของการจัดงาน นับได้ว่าบูธของประเทศมาเลเซียใหญ่เป็นอันดับ 3 ภายในงาน THAIFEX - Anuga Asia

Mr. Alexander Ljusic ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการจาก SOKO Gorica dooel Macedonia ซึ่งจัดแสดงสินค้าเป็นครั้งแรก พอใจกับการจัดงานในครั้งนี้ โดยกล่าวว่า “ในฐานะบริษัทมาซิโดเนียเพียงแห่งเดียวที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ในธุรกิจเครื่องดื่ม เราได้รับความสนใจและโอกาสเป็นอย่างดี บริษัทหลายแห่งได้เข้ามาเยี่ยมชมบูธของเราเพื่อลองลิ้มรสผลิตภัณฑ์ ซึ่งนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจที่เป็นไปได้สูง ด้วยโอกาสที่เข้ามาจำนวนมาก เราถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะเปลี่ยนโอกาสให้กลายเป็นข้อตกลงทางธุรกิจที่จับต้องได้ ซึ่งทำให้เรามีแนวโน้มว่าจะกลับมาจัดแสดงงานอีกในปีหน้า”

ในฐานะที่ THAIFEX – Anuga Asia ตั้งอยู่ในประเทศไทย จึงได้หยิบยื่นโอกาสให้บริษัทของไทย เช่น King Coffee, NSL Foods และ Laitram Machinery ในการขยายผลิตภัณฑ์ของบริษัทให้เป็นที่รู้จักและสร้างพันธมิตรใหม่ ๆ ในงานจัดแสดงสินค้าครั้งนี้ โฆษกของบริษัท Laitram Machinery กล่าวว่า "งานแสดงสินค้าครั้งนี้ทำให้เรามีช่องทางในการเชื่อมต่อกับบรรดาผู้นำในอุตสาหกรรม ได้สำรวจโอกาสทางธุรกิจใหม่ในภูมิภาคใหม่ ๆ และทำให้เราได้บอกเล่าถึงพันธสัญญาของเราที่จะมุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการแปรรูปอาหาร"

Joel Leong เน้นย้ำเพิ่มเติมถึงการเข้าร่วมงาน THAIFEX - Anuga Asia ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า “เราได้ขยายธุรกิจของเราให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้นผ่านงาน THAIFEX - Anuga Asia ฉันดูแลเรื่องการจัดซื้อผลิตภัณฑ์จากประเทศในเอเชียตะวันออกให้กับบริษัท ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 300 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และปีนี้เราได้ใช้จ่ายประมาณ 10 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐไปแล้วในงาน THAIFEX - Anuga Asia”

งาน THAIFEX — Anuga Asia 2024 ยังคงรักษามาตรฐานของการเป็นผู้นำการจัดงานแสดงสินค้าในภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เป็นเวทีสำคัญทั้งในด้านนวัตกรรม การสร้างพันธมิตร และการเติบโตทางธุรกิจ งานแสดงสินค้าครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของประเทศไทยในการเป็นประตูเชื่อมต่อตลาดอาหารและเครื่องดื่มระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ และทั่วโลก

No comments

Powered by Blogger.